วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปิดตาหลวงปู่เอี่ยมแท้ๆเป็นอย่างนี้ครับ องค์นี้ของอาจารย์รักษ์ ศรีเกตุ ครับผม ขออนุญาตอ้างอิงหน่อยครับ

คำถามข้างบนจากหัวข้อ อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกฉงนสนเท่ห์ไม่น้อยว่าไอ้เจ้าคนเขียนมันจะมาไม้ไหน ....   


ก็ไม่มาไม้ไหนหรอกครับ เพียงแต่ว่าผู้เขียนเป็นนักสะสมของขลังที่นึกนิยมพระปิดตาในสายนี้ แ่ต่ปรากฏว่าช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2534 เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ผีจับยัด" กันอย่างเอิกเกริก เราไปรู้ไปเห็นเข้าก็ทนไม่ได้ จิตวิญญาณของผู้รักความยุติธรรม มันเดือดปุดๆ  เลยต้องออกมาเตือนกันสักหน่อย เก๊าะผ่าน blog นี้นี่ไงล่ะท่าน blog นี้มันอาจจะยาวสักหน่อย จึงต้องตัดออกเป็นตอนๆไป ตามความหมั่นเพียรของผู้เขียนเองล่ะครับว่าจะขี้เกียจหรือขยันเขียนมากน้อยเพียงใด เอ้าพูดปุ๊บตัวขี้เกียจเดินมาจับหลังปั๊บทันทีเลยแฮะ  แต่ยังไงวันนี้ (15 พ.ย. 2556) ต้องเอาสักตอนหนึ่งก่อน  เริ่มเลยแล้วกัน พระปิดตาวัดสะพานสูงที่เราๆท่านๆนิยมเล่นหากันก็จะมีของ 3 พระเถราจารย์คือ

 

1. หลวงปู่เอี่ยม 

2. หลวงปู่กลิ่น

3. หลวงพ่อทองสุข (หรือบางคนเรียกว่า หลวงปู่สุข ก็แล้วแต่)

ประวัติของอาจารย์แต่ละท่านหาอ่านเอาได้จาก google ครับ ขี้เกียจพิมพ์ง่่ะ!

ในตอนปฐมนี้จะกล่าวถึงพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมก่อนเป็นลำดับแรกครับ  พระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงนั้นถือเป็นยอดพระปิดตาที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ในเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อผงในอันดับที่สอง จะเป็นรองก็แต่พระปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรีเท่านั้น ด้วยความต้องการตลาดที่มีสูงมากต่อพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมนี้จึงเป็นแรงผลักดันให้มีราคาสูงตามไปด้วย และก็แน่นอนครับว่า ของเก๊ ของปลอม ของก๊อปปี้ หลายเกรด หลายฝีมือ หลายรุ่น ก็ได้หลั่งไหลเป็นเขื่อนแตกออกมาตอบสนองตามความต้องการตลาดอย่างที่ว่า ใครไม่แม่น ใครโลภ ใครงมงาย ก็ต้องโดนกันไปถ้วนหน้า อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เมื่อก่อนก็เล่นกันแบบพอหอมปากหอมคอพื้นๆ เอากันแค่หลักร้อย แต่เดี๋ยวนี้เล่นเอาพระเก๊มาติดรางวัลขายกันเป็นแสน  (แอบอิจฉาครับ เอาพระเก๊มาขายกันได้เป็นแสนๆ 5 5 5 ปรนเปรอ กิ๊กกันเพลินเลยนะ)

  • ผู้เขียนรู้ได้อย่างไรว่าขบวนการก๊อปเกรดเอ เริ่มกันตั้งแต่ 2534 

    อาฮ้า! ไม่ยากเลยครับ ก็ปี 2534 นั้นเป็นปีที่มีการแตกกรุของพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงออกมาตามคำเรียกร้องของแฟนๆไงครับ หึ หึ หึ ที่จริงต้องเรียกว่าแตกออกมาเพื่อสนองความต้องการตลาดที่มีอย่างล้นหลาม มากกว่า

ในช่วงที่มีพระออกมาใหม่ๆเซียนส่วนใหญ่เขาเห็นแล้วก็เฉยๆกันครับเพราะของอย่างนี้เรียกว่าทางใครทางมัน ไอ้การสวดพระกันมันรังแต่จะสร้างเรื่องเดือดร้อนมาให้ตัวเองถึงว่าพระองค์นั้นจะเป็นพระเก๊ดูง่ายๆเขาก็เฉยๆ

แต่จากวันนั้นมาถึงจนวันนี้ (2556) พระปิดตากรุใหม่ที่เมื่อก่อนไม่มีใครสนใจเล่นกัน ก็มีการบรรจุเข้าสู่รายการประกวดพระเครื่องกันหน้าตาเฉย ก็ว่ากันด้วยเรื่องผลประโยชน์นั่นแหละครับ เจ้ามือใหญ่ๆแหละตัวดี ปิดตาหลวงปู่เอี่ยมแท้ๆที่เรียกกันว่าพระกรุเก่า (ที่จริงพระหลวงปู่เอี่ยมเป็นพระที่ไม่ได้ลงกรุ สร้างแล้วแจกเลย) ตัวเองหาพระไม่ได้แต่มีใบสั่งของเข้ามา..โลภก็โลภ..ของก็หาไม่ได้เอาไงดีว๊ะ อืมมมม์...เอาว๊ะขายรุ่นผีจับยัดกรุนี่แหล่ะว๊ะ  อยากได้ตังค์เขานี่ พอมีความคิดอุบายตุ๋นยาจีนแล้ว จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตายัดลงในรายการประกวดให้ได้ พอยัดได้เสร็จพระตัวเองประกวดติดรางวัลออกมา คราวนี้พอใครบอกว่าเก๊ก็เอาใบประกาศโยนใส่หน้าให้เขาดูว่า เอ้านี่พระประกวดติดรางวัลมางานสมาคมฯ จะเก๊ได้ไง ใครว่าพระกูเก๊ว๊ะ (เดี๋ยวกระทืบแมร่....งงงงเรยยยย์)

 

  • รู้ได้อย่างไรว่าพระกรุใหม่เก๊  

    เอ้า ก็ไม่ยากอีกนั่นแหละ พระกรุใหม่ ไม่ได้หมายความว่าเป็น "พระใหม่" นี่พ่อคู้ณ!!! ถ้าเป็นพระที่ทันยุคหลังปู่เอี่ยม (ประมาณกว่า 120 ปีที่แล้ว) มันก็ต้องมีความเก่าให้ดูสิครับ ไม่เชื่อก็ดูรูปด้านบนนั่นปะไร  พระกรุใหม่ คือแตกกรุทีหลังแต่ไม่ได้เป็นพระที่สร้างเสร็จมาใหม่ๆ เข้าใจตรงกันนะ?! หรือจะเปรียบเทียบให้เข้าใจกับพระหูยานกรุใหม่ ซึ่งเป็นพระแตกกรุทีหลังแต่เป็นพระที่สร้างคราวเดียวกันมีความเก่าของเนื้อหาที่พิสูจน์ทราบได้ ตำหนิพิมพ์ทรงถูกต้อง อย่างนี้เล่นแล้วไม่มีอาการวัยรุ่นเซ็งครับ

  • เอาล่ะ! คราวนี้ผมถามกลับบ้างว่าเคยเห็นปิดตาหลวงปู่เอี่ยมกรุใหม่องค์ไหนบ้างไม้ ที่เห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นพระเก่า  (แหม....เนื้อใหม่สดออกปานนั้น) แถมถ้าเปรียบเทียบพิมพ์ทรง ก็จะเห็นความแตกต่างของวิธีการสร้างว่าพระโบราณๆมีวิธีการสร้างไม่เหมือนพระใหม่ๆครับ ลองสังเกตุเปรียบเทียบดูสิ แล้วคิดตามดูว่าที่พูดมานั้นจริงหรือไม่จริง

  • ข้อสังเกตุมีอยู่ตรงที่ว่า พระเก๊ชุดนี้ ทำออกมาโดยคนมีความรู้เรื่องพระเครื่องครับ คือเนื้อหานั้นทำได้แบบที่เรียกว่าพอใช้ได้หรือเรียกว่า"ดี"ในระดับหนึ่ง(ถึงจะไม่เหมือน 100%) แต่อย่างไรก็ดี ธรรมชาติยังปราณีมนุษย์เสมอที่เรื่องความเก่านั้นมันยังทำกันไม่ได้ ไม่งั้นผมต้องลาวงการนี้แล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องพิมพ์ทรงนั้นก็เป็นอีกเรื่องก็ถ้าหากใครแม่นก็จับสังเกตุได้เช่นกันเพราะพระเก๊ชุดนี้เป็นพระที่แกะและกดพิมพ์ใหม่ จึงมีความแตกต่างกันกับของแท้ครับ บางส่วนบางจุดมันถูกเน้นทำให้เห็นเด่นชัดเกินไปไม่ใช้เกิดขึ้นเองแบบธรรมชาติตามแบบของแท้ๆ

เป็นไงกันบ้างครับสำหรับตอนแรก กระท้อนหวานไม่ได้เจาะรายละเอียดถึงวิธีการดูพิมพ์อย่างนั้นดูเนื้ออย่างนี้ ผู้อ่านสามารถหาข้อมูลเหล่านั้นได้จากอินเตอร์เน็ตได้อยู่แล้วครับ (แต่บางทีก็ลำบากเหมือนกันเพราะตอนนี้ของเก๊ของแท้มันปนเปเผสผสมฟีเจอริ่งกันไปหมด )  แล้วลองนำข้อมูลพวกนั้นมาเทียบกับภาพพระแท้องค์ที่อ้างอิงในบล็อกนี้ดูครับว่าข้อมูลไหนถูกหรือผิดอย่างไร ผมอยากให้นักสะสมรุ่นใหม่ๆหัดลองเป็นคนช่างสังเกตุดูครับ เพราะหากเราสังเกตุอย่างละเอียดถี่ถ้วนย่อมได้ข้อพิจารณาที่จะช่วยให้เราพบความจริงในที่สุดนั่นเอง แล้วพบกันใหม่ในตอนที่สอง ปิดตาหลวงปู่กลิ่น รับรองระดับความเก๊ครับ ว่า "เก๊สะบัด" "เก๊สะบั้น" "เก๊แหลก" "เก๊สุดขั้ว" ใครไม่อ่านระวังโดนเก๊เดี๋ยวจะหาว่ากระท้อนหวานไม่บอกไม่ได้นะครับ      

                      สวัสดี

 

 

 

 

 

 

  •