![]() |
ปิดตาหลวงปู่เอี่ยมแท้ๆเป็นอย่างนี้ครับ องค์นี้ของอาจารย์รักษ์ ศรีเกตุ ครับผม ขออนุญาตอ้างอิงหน่อยครับ |
คำถามข้างบนจากหัวข้อ อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกฉงนสนเท่ห์ไม่น้อยว่าไอ้เจ้าคนเขียนมันจะมาไม้ไหน ....
ก็ไม่มาไม้ไหนหรอกครับ เพียงแต่ว่าผู้เขียนเป็นนักสะสมของขลังที่นึกนิยมพระปิดตาในสายนี้ แ่ต่ปรากฏว่าช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2534 เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ผีจับยัด" กันอย่างเอิกเกริก เราไปรู้ไปเห็นเข้าก็ทนไม่ได้ จิตวิญญาณของผู้รักความยุติธรรม มันเดือดปุดๆ เลยต้องออกมาเตือนกันสักหน่อย เก๊าะผ่าน blog นี้นี่ไงล่ะท่าน blog นี้มันอาจจะยาวสักหน่อย จึงต้องตัดออกเป็นตอนๆไป ตามความหมั่นเพียรของผู้เขียนเองล่ะครับว่าจะขี้เกียจหรือขยันเขียนมากน้อยเพียงใด เอ้าพูดปุ๊บตัวขี้เกียจเดินมาจับหลังปั๊บทันทีเลยแฮะ แต่ยังไงวันนี้ (15 พ.ย. 2556) ต้องเอาสักตอนหนึ่งก่อน เริ่มเลยแล้วกัน พระปิดตาวัดสะพานสูงที่เราๆท่านๆนิยมเล่นหากันก็จะมีของ 3 พระเถราจารย์คือ
1. หลวงปู่เอี่ยม
2. หลวงปู่กลิ่น
3. หลวงพ่อทองสุข (หรือบางคนเรียกว่า หลวงปู่สุข ก็แล้วแต่)
ประวัติของอาจารย์แต่ละท่านหาอ่านเอาได้จาก google ครับ ขี้เกียจพิมพ์ง่่ะ!
ในตอนปฐมนี้จะกล่าวถึงพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมก่อนเป็นลำดับแรกครับ พระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงนั้นถือเป็นยอดพระปิดตาที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ในเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อผงในอันดับที่สอง จะเป็นรองก็แต่พระปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ จังหวัดชลบุรีเท่านั้น ด้วยความต้องการตลาดที่มีสูงมากต่อพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมนี้จึงเป็นแรงผลักดันให้มีราคาสูงตามไปด้วย และก็แน่นอนครับว่า ของเก๊ ของปลอม ของก๊อปปี้ หลายเกรด หลายฝีมือ หลายรุ่น ก็ได้หลั่งไหลเป็นเขื่อนแตกออกมาตอบสนองตามความต้องการตลาดอย่างที่ว่า ใครไม่แม่น ใครโลภ ใครงมงาย ก็ต้องโดนกันไปถ้วนหน้า อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เมื่อก่อนก็เล่นกันแบบพอหอมปากหอมคอพื้นๆ เอากันแค่หลักร้อย แต่เดี๋ยวนี้เล่นเอาพระเก๊มาติดรางวัลขายกันเป็นแสน (แอบอิจฉาครับ เอาพระเก๊มาขายกันได้เป็นแสนๆ 5 5 5 ปรนเปรอ กิ๊กกันเพลินเลยนะ)
ผู้เขียนรู้ได้อย่างไรว่าขบวนการก๊อปเกรดเอ เริ่มกันตั้งแต่ 2534
อาฮ้า! ไม่ยากเลยครับ ก็ปี 2534 นั้นเป็นปีที่มีการแตกกรุของพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงออกมาตามคำเรียกร้องของแฟนๆไงครับ หึ หึ หึ ที่จริงต้องเรียกว่าแตกออกมาเพื่อสนองความต้องการตลาดที่มีอย่างล้นหลาม มากกว่า
ในช่วงที่มีพระออกมาใหม่ๆเซียนส่วนใหญ่เขาเห็นแล้วก็เฉยๆกันครับเพราะของอย่างนี้เรียกว่าทางใครทางมัน ไอ้การสวดพระกันมันรังแต่จะสร้างเรื่องเดือดร้อนมาให้ตัวเองถึงว่าพระองค์นั้นจะเป็นพระเก๊ดูง่ายๆเขาก็เฉยๆ
แต่จากวันนั้นมาถึงจนวันนี้ (2556) พระปิดตากรุใหม่ที่เมื่อก่อนไม่มีใครสนใจเล่นกัน ก็มีการบรรจุเข้าสู่รายการประกวดพระเครื่องกันหน้าตาเฉย ก็ว่ากันด้วยเรื่องผลประโยชน์นั่นแหละครับ เจ้ามือใหญ่ๆแหละตัวดี ปิดตาหลวงปู่เอี่ยมแท้ๆที่เรียกกันว่าพระกรุเก่า (ที่จริงพระหลวงปู่เอี่ยมเป็นพระที่ไม่ได้ลงกรุ สร้างแล้วแจกเลย) ตัวเองหาพระไม่ได้แต่มีใบสั่งของเข้ามา..โลภก็โลภ..ของก็หาไม่ได้เอาไงดีว๊ะ อืมมมม์...เอาว๊ะขายรุ่นผีจับยัดกรุนี่แหล่ะว๊ะ อยากได้ตังค์เขานี่ พอมีความคิดอุบายตุ๋นยาจีนแล้ว จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตายัดลงในรายการประกวดให้ได้ พอยัดได้เสร็จพระตัวเองประกวดติดรางวัลออกมา คราวนี้พอใครบอกว่าเก๊ก็เอาใบประกาศโยนใส่หน้าให้เขาดูว่า เอ้านี่พระประกวดติดรางวัลมางานสมาคมฯ จะเก๊ได้ไง ใครว่าพระกูเก๊ว๊ะ (เดี๋ยวกระทืบแมร่....งงงงเรยยยย์)
รู้ได้อย่างไรว่าพระกรุใหม่เก๊
เอ้า ก็ไม่ยากอีกนั่นแหละ พระกรุใหม่ ไม่ได้หมายความว่าเป็น "พระใหม่" นี่พ่อคู้ณ!!! ถ้าเป็นพระที่ทันยุคหลังปู่เอี่ยม (ประมาณกว่า 120 ปีที่แล้ว) มันก็ต้องมีความเก่าให้ดูสิครับ ไม่เชื่อก็ดูรูปด้านบนนั่นปะไร พระกรุใหม่ คือแตกกรุทีหลังแต่ไม่ได้เป็นพระที่สร้างเสร็จมาใหม่ๆ เข้าใจตรงกันนะ?! หรือจะเปรียบเทียบให้เข้าใจกับพระหูยานกรุใหม่ ซึ่งเป็นพระแตกกรุทีหลังแต่เป็นพระที่สร้างคราวเดียวกันมีความเก่าของเนื้อหาที่พิสูจน์ทราบได้ ตำหนิพิมพ์ทรงถูกต้อง อย่างนี้เล่นแล้วไม่มีอาการวัยรุ่นเซ็งครับ
เอาล่ะ! คราวนี้ผมถามกลับบ้างว่าเคยเห็นปิดตาหลวงปู่เอี่ยมกรุใหม่องค์ไหนบ้างไม้ ที่เห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นพระเก่า (แหม....เนื้อใหม่สดออกปานนั้น) แถมถ้าเปรียบเทียบพิมพ์ทรง ก็จะเห็นความแตกต่างของวิธีการสร้างว่าพระโบราณๆมีวิธีการสร้างไม่เหมือนพระใหม่ๆครับ ลองสังเกตุเปรียบเทียบดูสิ แล้วคิดตามดูว่าที่พูดมานั้นจริงหรือไม่จริง
ข้อสังเกตุมีอยู่ตรงที่ว่า พระเก๊ชุดนี้ ทำออกมาโดยคนมีความรู้เรื่องพระเครื่องครับ คือเนื้อหานั้นทำได้แบบที่เรียกว่าพอใช้ได้หรือเรียกว่า"ดี"ในระดับหนึ่ง(ถึงจะไม่เหมือน 100%) แต่อย่างไรก็ดี ธรรมชาติยังปราณีมนุษย์เสมอที่เรื่องความเก่านั้นมันยังทำกันไม่ได้ ไม่งั้นผมต้องลาวงการนี้แล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องพิมพ์ทรงนั้นก็เป็นอีกเรื่องก็ถ้าหากใครแม่นก็จับสังเกตุได้เช่นกันเพราะพระเก๊ชุดนี้เป็นพระที่แกะและกดพิมพ์ใหม่ จึงมีความแตกต่างกันกับของแท้ครับ บางส่วนบางจุดมันถูกเน้นทำให้เห็นเด่นชัดเกินไปไม่ใช้เกิดขึ้นเองแบบธรรมชาติตามแบบของแท้ๆ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบน่าเสียดายที่เขียนบทความแค่บทความเดียว แต่มีประโยชน์มากๆครับ
ตอบลบส่วนตัวผมก็เชื่อว่ากรุใหม่ไม่ใช่พระของหลวงปู่เอี่ยมสร้างแน่นอน ถ้าท่านยังเขียนต่อไป
ผมคิดว่าคงจะมีประเด็นขุนแผนกรุใหม่ มาวิเคราะห์อีกแน่นอน น่าเสียดายที่ทิ้งร้างไปนาน
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ลบขอบคุณมากครับท่าน Ame ผมมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ก็ม่วนอกม่วนใจ๋นะครับที่มีคนสนใจแล้วคิดว่าข้อมูลที่นำมาลงนี้พอมีประโยชน์บ้าง
ลบสำหรับประเด็นเรื่องพระขุนแผนกรุใหม่ที่พี่กล่าวถึงนั้นน่าจะเป็น ขุนแผนเคลือบกรุวัดอัมพวัน จ.นนทบุรี กระมัง ผมบอกตามตรงว่าผมเองไม่ได้เล่นหาพระขุนแผนทั้งกรุวัดใหญ่ฯ (หาไม่เคยเจอและคิดว่าไม่ต้องไปหาให้เสียเวลาครับ คงได้แต่เป็นพระในฝันของกระผมได้เพียงอย่างเดียว เพราะไกลเกินเอื้อม) และกรุวัดอัมพวันด้วย สำหรับขุนแผนกรุวัดอัมพวัน จ.นนทบุรีนั้น แต่เริ่มที่มีข่าวแตกกรุออกมา ตามสนามก็เห็นมีวางจำหน่ายอยู่ ตอนนั้นก็องค์ละ 2-3 หมื่น ผมเห็นแล้วก็เฉยๆนะ เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นพระสมัยเดียวกับวัดใหญ่ฯอยุธยา ดูวรรรณะของพระแล้วยังใหม่อยู่มากเคยส่องดูของพี่คนหนึ่งที่รู้จักกันแล้วคิดในใจ "ฮึ่มมม์โดนเข้าแล้วล่ะ เฮ้อ (-_-") เล่นมากี่ปีแล้วเนี่ย"
พอเปรียบเทียบพิมพ์ทรงกับกรุวัดใหญ่ฯ (เคยดูจากเว็บบ้าง หนังสือบ้าง) ดูๆก็จะแผกต่างออกไปนะผมว่า ดูแล้วมัน("มัน"หมายถึงอารมณ์ในการดูครับไม่ใช่องค์พระ)ให้ความรู้สึกขัดๆตาครับ ผมเองก็บอกไม่ถูกเพราะไม่ได้เล่นหามาก่อน เพียงแต่ได้ดูผ่านๆตาบ้าง ไม่ได้จับสังเกตุจริงจัง และ ณ.กาลปัจจุบัน 27 สิงหาคม 2558 คิดว่าคงหลงเหลือผู้เล่นหาน้อยเต็มทีแล้ว บรรยากาศก็ดูเงียบๆเชียบๆวังเวงโขทีเดียว ข่าวที่ออกมาช่วงหลังๆก็ไม่ได้เป็นไปในเชิงบวกเอาเสียเลย จะเป็นเรื่องการพิสูจน์นั่นนี่โน่น โดยบิ๊กนี่ บิ๊กนู่น ก็บอกว่าไม่ใช่ ไม่เก่า ส่วนที่เซียนใหญ่บางคนที่ออกมาการันตี ว่าแท้แน่นอน(ในแบบกรุอัมพวัน) ผมว่าก็เป็นเรื่องที่ไม่เห็นน่าแปลกใจตรงไหน เอาอย่างนี้ถ้าผมขายพระไปสักองค์หนึ่งแล้วพอมีคนเอากลับมาให้ดูผมจะบอกว่าพระองค์นั้นเก๊ไหมล่ะท่าน มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆลุ่นๆง่ายๆอย่างนี้แหละท่าน
อ้อมีอีกประเด็นหนึ่ง ครับ เพื่อนผมอีกคนหนึ่งเคยไปพบปะพูดคุยกับนักเล่น-ซื้อขายของเก่าพวกกระเบื้องเคลือบ กังไส แถวๆอยุธยา เค้าก็บอกว่า"ไม่เก่าหรอก" ผมว่าเป็นประเด็นที่น่าเชื่อถือได้เพราะนักเล่นเหล่านี้เขาไม่ได้เล่นพระและไม่มีผลประโยชน์ใดให้เบียดบัง ตาเขาก็มองหา-ประเมินอายุของชิ้นงานได้โดยไม่ต้องมีอคติใดๆและก็อย่างที่ว่า "ไม่เก่า" คือข้อสรุปของนักเล่นกระเบื้องเคลือบกลุ่มนี้
และอีกประเด็นหนึ่งสุดท้ายที่อยากทิ้งไว้เป็นข้อคิดให้ทุกๆท่านถามใจตัวเองดูว่า ถ้าเป็นไปตามข้อสรุปจากเสวนาวิเคราะห์ เจาะลึกพระขุนแผนเคลือบกรุวัดอัมพวัน ที่โรงแรมริชมอนด์ เมื่อวันพุธที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ว่า "พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอัมพวัน เป็นพระแท้แน่นอน และสร้างในสมัยเดียวกันกับ พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งสร้างโดย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปลุกเสกโดยสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว" พระคนละพิมพ์แบบนี้ไปถามคนหัดเล่นพระก็ต้องบอกว่าสร้างจากผู้สร้างคนละคนแน่นอน ถ้าเช่นนั้นใครเป็นผู้สร้างครับ? ท่านผู้สร้างนั้นตั้งใจจะวัดรอยพระบาทของพระมหากษัตริย์หรือครับ? เป็นไปได้หรือครับยิ่งในสมัยนั้นด้วย ? พระมหากษัตริย์สร้างแล้วใครสักคนก็สร้างล้อพิมพ์เลียนแบบไปบ้าง โอ้คิดกันไปได้นะนี่เซียนพระสมัยนี้ หึ หึ
ส่วนผู้จะนำพระรุ่นนี้ขึ้นคอมีคำแนะนำจากวงการสร้างวัตถุมงคลว่า "ควรนำพระไปปลุกเสกซ้ำอีก ๒-๓ พิธี พระจะได้มีพุทธคุณ แต่ถ้าพระมีพุทธคุณอยู่แล้ว เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มพุทธคุณให้มากยิ่งขึ้น" ผมว่าทำกรอบใส่ติดไว้หัวนอนดีกว่าครับ จะได้เห็นท่านทุกวัน ท่านจะได้คอยเตือนเราไม่ให้งมงาย ตื่นตูม หลงไหลไปกับโลภโมโทสัน คือคนที่โดนน่ะถามดูลึกๆสิว่าโดนเพราะอะไรครับ อยากได้ขุนแผนเคลือบราคาไม่กี่บาท(ที่จริงก็เป็นหมื่นเป็นแสนนะ) เพื่อจะเก็งกำไรใช่ไม้ล่ะ
อ้อมีอีกนิดครับ ผมได้ยินกับหูตัวเองเลยว่าเซียน(ถนัดด้านพระกรุ..ตาดีมาก)ที่อยู่ในกลุ่มที่เล่นหาพระกรุนี้อย่างจริงจังบอกว่า "พระขุนแผนเคลือบกรุวัดอัมพวันนี่นะ ถ้าได้มา ผมจะวิ่งเข้าหาลูกค้าให้เร็วที่สุด" มันหมายถึงอะไรนะ ผมก็เดาไปตามเรื่องว่า แน่นอนสิก็มรึงคงไม่เก็บไว้ให้ติดมือหร็อก ไอ้เว็ลล์
ลบส่วนตัวผมเคยไปสนามพระกับคุณพ่อ ซึ่งสนิทกับเซียนใหญ่ท่านนึง ถึงประเด็นนี้
ลบท่านก็หัวเราะแล้วบอกเอา ถ้าเป็นคุณ(พ่อผม ซึ่งเล่นแต่พระเก่า พศ. 2500 ขึ้นไป)
ผมไม่แนะนำให้เก็บหรอก แต่ถึงเซียนใหญ่ท่านนั้นพูดแบบนั้นแต่เค้าก็มีขายนะ
เค้าบอกว่าไม่อยากไปขัดผลประโยชน์กับใคร ของมันขายได้ก็ขายไป และก็ยังไม่เห็นมีใครเอามาคืน ราคาก็สาละวันเตี้ยลงๆ แต่พยายามดันกันไปอย่างนั้น
แต่ถ้าแตกกรุที่วัดบ้านกลิ้งนั่น ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าแท้แน่นอน
มันก็เป็นเช่นนี้แหละครับ กระผมเองมีนามกรว่า "กระท้อนหวาน" เพราะอะไรน่ะรึ ก็เพราะผมโดนทุบมาจนน่วมไปหมด กระท้อนน่ะถ้าจะกินให้หวานมันก็ต้อง "ทุบ" ให้หนำเสียก่อนจริงไหมล่ะ ฉะนั้นผมจึงไม่อายใครเลยครับที่จะบอกว่าตนเองนั้น "โดน" มาแบบนับไม่ถ้วนบทเรียนที่ได้จึงมาปรากฏสะท้อนผ่านบรรทัดต่างๆบนหน้าจอบล็อกที่ได้นำเสนอไปนี่ไงเล่าครับ แต่ผมก็ไม่เคยไปร้องแรกแหกกระเชอที่ไหน ปลงใจเสียว่าที่เราโดนนั้นเพราะ 1. โลภ 2.โง่(ความรู้มีไม่ถึงแต่กระสันต์อยากได้กับเขา) 3. งั่ง ไม่รู้จักจำมันต้องโดนไปจนกว่าจะเข็ด สำหรับหัวข้อพระขุนแผนฯนี้ผมนึกนิยมในเซียนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เล่นหาด้วยยึดถือคุณธรรม ไม่รังแกคนที่ด้อยความรู้ประสบการณ์กว่า หลอกต้มเขากินให้ผิดศีลข้ออทินนาฯ เป็นกรรมติดตัวไป พระเครื่องแลวัตถุมงคลของไทยยังมีให้ศึกษาและสะสมอีกมากครับ ส่วนเรื่องผลประโยชน์นั้นไม่มีใครอยากไปขัดกับใครหรอกครับ กระท้อนหวานเองก็ยังไม่อยากถูกกระทืบเช่นกันครับ 5 5 5
ลบเนื้อหาดีคับ ผมก็พึ่งจะชอบพระเครื่อง เลยเริ่มสะสมพระคับ ผมไม่สนใจความเก่าคับ ผมเน้นเวลาไปทำบุญวัดไหน ชอบก็บูชาคับ บูชาแบบผมเดี๋ยวก็ไปเก่าที่รุ่นลูกรุ่นหลานคับ คราวหน้าพี่พิมพ์หลวงปู่ทวดด้วยซิคับ ชอบอ่านบทความของพี่คับ
ตอบลบข้อมูลพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมฯกรุใหม่มีประโยชน์มากๆครับ อ่านแล้วได้แง่คิดมุมมองหลักพิจารณาความน่าจะเป็น ผมก็ไม่เชื่อว่าพระปิดตาวัดสะพานสูง กรุใหม่ ทันหลวงปู่เอี่ยมฯสร้าง ผมคิดว่าน่าจะเป็นแก๊งค์เดียวับที่เคยบิดเบือนประวัติการสร้างพระพิมพ์เนื้อผงวัด(เกศ)ไชโยฯนั่นแหล่ะมั้ง พระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯสร้างแจกชาวบ้านระหว่างปีพ.ศ ๒๔๓๘-85 แต่แก๊งค์นี้มาแต่งนิยาย นิทาน ตำนาน อุปโลกน์ให้เป็นว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พฺรหมฺรํสี ขึ้นมาสร้างพระพิมพ์เนื้อผงเกือบแสนองค์บรรจุไว้ในองค์หลวงพ่อโต บิดเบือนว่าพระวัดไชโยฯสร้างก่อนพระวัดระฆังฯและวัดใหม่บางขุนพรหม แต่ดูสภาพพระวัดไชโยฯบางองค์ยังดูสดใหม่เอี่ยมอ่องผ่องใสไร้ไฝฝ้าคราบกรุจับผิว ดูใหม่กว่าพระพิมพ์เนื้อผงของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ชุดพิมพ์ขุดสระเล็ก-ใหญ่เสียอีก เขาคงคิดว่าเขาเป็นเซียนใหญ่จะโกหกบิดเบือนข้อมูลพระทำอะไรก็ได้มั้ง ระวังจะเป็นเหมือนอดีตเซียนผู้ยิ่งใหญ่แก่ๆคนหนึ่งน่ะ สมัยก่อนเป็นเซียนพระรุ่นใหม่ รุ่นใหญ่ไฟแรง เป็นผู้ทำให้ระบบพุทธพาณิชย์เป็นที่ยอมรับของสังคม พระเครื่องชั้นนำองค์ดารา องค์ครูเกือบทุกองค์ต้องตั้งฉายาตามชื่อเซียนใหญคนนี้ แต่ทุกวันนี้อดีตเซียนใหญ่คนนี้ต้องกลับไปขุดเอาพระยัดกรุวัดสะตือ วัดขุนอินฯ เอามาอุปโลกน์ยัดเยียดเล่นให้เป็นพระทันเจ้าประคุณสมเด็จฯสร้าง ทุเรศกว่านี้คงไม่มีอีกแล้วมั้งครับ..
ตอบลบ